วันศุกร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2556
“เฟซบุ๊ค” เพิ่มค่าธรรมเนียมการส่งข้อความระหว่างผู้ที่ไม่ใช่ “เพื่อน” กัน
วันนี้ ( 12 ม.ค. ) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าวเป็นภาษาอังกฤษฟุด ฟิด ฟอ ไฟ จากเมืองซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา แต่ผมไม่ได้ตามไปอ่านหรอกนะ ผมอ่านเวอร์ชั่นภาษาไทยจากหนังสือพิมพ์เดลินิวส์ เขาบอกว่า เฟซบุ๊ค เครือข่ายสังคมออนไลน์อันดับ 1 ของโลก เริ่มทดสอบระบบเก็บเงินค่าส่งข้อความระหว่างผู้ใช้ที่ไม่ได้มีสถานะเป็น “เพื่อน” กันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ โดยกำหนดเพิ่มค่าธรรมเนียมการส่งข้อความเป็น 100 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3,100 บาท ) โอ้ว...มันช่างเป็นค่าส่งข้อความที่แพงมากๆๆๆเลย
อ่านข่าวแล้วเศร้า เพราะอาจเรียกได้ว่าเป็นโศกนาฏกรรมของคนโสด(แต่จน)อย่างผมโดยแท้จริง ลองคิดดูสิ ถ้าบังเอิญผมไปเจอสาวสวยใน Facebook แล้วอยากจะส่งข้อความไปจีบ ผมจะต้องเสียเงินครั้ง 3 พันกว่าบาท ชีวิตมันจะอนาถสักแค่ไหน โอกาสที่จะได้เจอเนื้อคู่คงยากขึ้นอีก แม้จะส่งคำขอเป็นเพื่อนก่อนได้ แต่บางทีคนสวยๆ เขาไม่รับเป็นเพื่อนง่ายๆ (เพราะพอเขาเห็นว่ารูปในโปรไฟล์เราหล่อมากๆ เขาก็มักคิดว่าเป็นรูปปลอม)
อีตามาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก (เจ้าของเฟสบุ๊ค) นี่เค้าแต่งงานแล้วก็เลยไม่เห็นใจหัวอกคนโสดเลย แง๊ๆๆ
มาอ่านข่าวต่อ ตามข่าวระบุว่าก่อนหน้านี้เมื่อเดือน ธ.ค. เฟซบุ๊คทำการทดสอบระบบดังกล่าวสำหรับผู้ใช้ในสหรัฐ โดยจะมีการเรียกเก็บเงินค่าส่งข้อความทันที 1 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 31 บาท ) ต่อการส่ง 1 ครั้ง ซึ่งกระแสตอบรับค่อนข้างน่าพอใจ (ใครพอใจฟระ คนที่ส่งข้อความไม่น่าจะพอใจหรอกนะ)
ส่วนสาเหตุที่นำมาอ้างในการคิดค่าส่งข้อความในครั้งนี้ก็คือ เพื่อเป็นการทดสอบระบบคัดกรองข้อความขยะ รวมถึงข้อความโฆษณาอิเล็กทรอนิกส์ ( สแปม ) ครั้งสุดท้าย ว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะเริ่มให้มีการใช้งานจริงได้หรือไม่ รวมถึงเพื่อเพิ่มความมั่นใจว่า ข้อความที่ถูกส่งในแต่ละครั้งเป็นข้อความที่จำเป็น เต็มไปด้วยสาระสำคัญ และมีประโยชน์ต่อผู้รับอย่างแท้จริงที่สุด เอ่อ...คิดดูแล้วมันก็จริงนะ ขอเสนอว่าต่อไปควรคิดค่าแท็กรูปด้วย ผมเห็นคนรวย ๆ ชอบแท็กรูปคลี่แบ็งค์มาอวดรวยแล้วชวนไปทำงานด้วยบ่อยๆ พวกนี้ร่ำรวยและหาเงินได้ง่ายๆ ต้องมีเงินจ่ายแน่นอน
อีกเหตุผลหนึ่งก็คือเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวให้แก่บุคคลสำคัญ หรือบุคคลผู้มีชื่อเสียงที่ใช้เฟซบุ๊ค อาทิ มาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก หนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งและประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร ( ซีอีโอ ) คนปัจจุบันของเฟซบุ๊ค เพื่อให้แน่ใจว่า ข้อความที่ได้รับจะไม่ใช่ข้อความก่อกวน สรุปก็คืออีตามาร์กเค้าได้รับข้อความเยอะใช่เปล่า แล้วก็คงมีการพูดแซวกันในบรรดาผู้ร่วมงานของเฟสบุ๊คว่า "แหม...นี่ถ้าเปลี่ยนข้อความที่ส่งมาเป็นเงินได้สักข้อความละ 3,100 บาท ตูคงรวยไปแล้ว" แบบนี้ไง ที่เขาบอกว่า แค่ประโยคดีๆ 1 ประโยค ก็สามารถเปลี่ยนชีวิตคนได้เลย
เอาล่ะ จบข่าวไปเศร้าต่อ
ลป. (ลืมไป)...ตอนนี้ที่ไทยยังไม่มีการเก็บเงินค่าส่งข้อความ ใครคิดจะส่งต้องรีบส่งนะครับ ส่งตุนๆไว้ก่อนก็ดี พอเขาเริ่มเก็บเงินจะได้ไม่ต้องส่งอีก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)